วัดธาตุทอง วัดดังย่านเศรษฐกิจ ใจกลางกรุงเทพ ติด BTS
หากเอ่ยถึงวัดที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองใหญ่ อย่างสุขุมวิท—ถนนสายสำคัญที่เต็มไปด้วยความเจริญและผู้คนหลากหลายเชื้อชาติ—เชื่อว่าหลายท่านคงนึกไม่ถึงว่าจะมีวัดที่สงบร่มรื่นแอบแฝงอยู่ท่ามกลางตึกสูงและรถราเช่นนี้ “วัดธาตุทอง” จึงนับเป็นอีกหนึ่งอัญมณีทางศาสนาที่ควรค่าแก่การแวะเยี่ยม
ประวัติวัดธาตุทอง – รากเหง้าแห่งศรัทธาในกลางมหานคร
วัดธาตุทอง พระอารามหลวงอันทรงคุณค่าแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานคร มีจุดเริ่มต้นที่เต็มไปด้วยเรื่องราวแห่งศรัทธาและวัฒนธรรม โดยอารามแห่งนี้มีรากฐานมาจากวัดเก่าแก่ถึงสองแห่ง คือ วัดหน้าพระธาตุ และ วัดทองล่าง ซึ่งล้วนเป็นวัดที่มีความสำคัญในอดีตและตั้งอยู่ในเขตคลองเตย อำเภอพระโขนง จังหวัดพระนคร
ตำนานวัดหน้าพระธาตุ:
วัดหน้าพระธาตุเป็นวัดโบราณที่เชื่อกันว่าสร้างขึ้นในยุคกรุงศรีอยุธยา โดยหน้าวัดมีพระเจดีย์องค์ใหญ่ซึ่งประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ สันนิษฐานว่าสถาปนาโดย พระเจ้าดวงกฤษณราช หรือที่คนทั่วไปเรียกว่า “พระเจ้าสายน้ำผึ้ง” พระมหากษัตริย์แห่งเมืองอโยธยา ซึ่งกล่าวถึงในพงศาวดารเมืองเหนือ อันเป็นหลักฐานยืนยันถึงความรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนาในยุคนั้น
ตำนานวัดทองล่าง:
ส่วนวัดทองล่าง มีเรื่องเล่าสืบต่อกันมาว่า พื้นที่เดิมเคยเป็นสวนผลไม้ของตระกูลหนึ่งซึ่งตกทอดมาถึง นายทอง บุตรหลานของเจ้าของเดิม ภายในสวนมีต้นโพธิ์ขนาดใหญ่อยู่กลางพื้นที่ นายทองเห็นว่าต้นโพธิ์เป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่ควรอยู่ในวัดมากกว่าบ้าน จึงตัดสินใจถวายที่ดินส่วนหนึ่งให้จัดสร้างวัดเล็ก ๆ ขึ้น โดยมีพระภิกษุชาวรามัญรูปหนึ่งชื่อ “สมภารกะทอ” มาเป็นเจ้าอาวาส
คำว่า “กะทอ” ในภาษารามัญแปลว่า “ปลาตะเพียนทอง” ซึ่งต่อมาชาวบ้านเรียกท่านด้วยความเคารพว่า “สมภารทอง” เมื่อรวมชื่อของสมภารทอง นายทอง และต้นโพธิ์เข้าด้วยกัน จึงเกิดชื่อวัดว่า “วัดโพธิ์สุวรรณาราม” หรือที่ชาวบ้านนิยมเรียก “วัดโพธิ์ทอง” ก่อนจะเพี้ยนมาเป็น “วัดทอง” และด้วยความที่มีวัดทองหลายแห่งตามลำแม่น้ำเจ้าพระยา จึงเรียกเจาะจงว่า “วัดทองล่าง”
การรวมวัดและการย้ายสถานที่:
กระทั่งในปี พ.ศ. 2480 รัฐบาลในขณะนั้นมีนโยบายพัฒนาพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อตั้งท่าเรือกรุงเทพฯ จึงได้เวนคืนพื้นที่ที่ตั้งของวัดหน้าพระธาตุและวัดทองล่าง รัฐบาลได้จัดสรรเงินเพื่อให้คณะสงฆ์นำไปก่อสร้างวัดใหม่แทน
โดยมีคณะกรรมการนำโดยพระเดชพระคุณ พระมหารัชมังคลาจารย์ (เทศ) และเจ้าคุณ พระพรหมมุนี (ผิน) แนะนำพื้นที่ใหม่ในตำบลคลองบ้านกล้วย ซึ่งมีเนื้อที่ 54 ไร่ 3 งาน 82 ตารางวา ราคาที่ดินในขณะนั้นไร่ละ 500 บาท โดยได้เริ่มสร้างวัดใหม่ขึ้นเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2480 และได้นำถาวรวัตถุจากวัดเดิมทั้งสองมาประกอบรวมกัน ณ สถานที่แห่งนี้
พระนาม “วัดธาตุทอง”
เมื่อเริ่มก่อสร้างวัดใหม่แล้ว สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ แห่งวัดบวรนิเวศวิหาร ทรงเมตตาเป็นองค์อุปถัมภ์ และได้พระราชทานนามใหม่ให้ว่า “วัดธาตุทอง” ซึ่งเป็นการผสานนามอันมีความหมายจากวัดทั้งสอง คือ “ธาตุ” จากวัดหน้าพระธาตุ และ “ทอง” จากวัดทองล่าง
วัดธาตุทองได้เริ่มมีพระภิกษุสามเณรจำพรรษาในปี พ.ศ. 2482 และในปี พ.ศ. 2483 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา พร้อมกับเริ่มก่อสร้างปูชนียสถานต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นอารามสำคัญ
พระบรมวงศานุวงศ์และความเป็นพระอารามหลวง
ต่อมาในปี พ.ศ. 2550 สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนา ได้ทรงรับวัดธาตุทองไว้ในพระอุปถัมภ์ และทรงประทานตราสัญลักษณ์ใหม่ให้แก่ทางวัด และในปี พ.ศ. 2555 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ได้ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ยกวัดธาตุทองเป็น “พระอารามหลวง ชั้นตรี ชนิดสามัญ”
นับแต่นั้นมา วัดธาตุทองจึงเป็นหนึ่งในวัดที่มีความสง่างามทั้งในเชิงสถาปัตยกรรม ความศักดิ์สิทธิ์ และบทบาทสำคัญในสังคมเมืองหลวงอย่างแท้จริง
ปูชนียวัตถุสำคัญภายในวัดธาตุทอง – ศูนย์รวมแห่งศรัทธาและสัจจะธรรม
วัดธาตุทอง พระอารามหลวงอันมีความโดดเด่นทั้งด้านประวัติศาสตร์และพุทธศิลป์ มิได้มีเพียงแค่สถาปัตยกรรมที่งดงามเท่านั้น หากแต่ยังเป็นสถานที่ประดิษฐานของ ปูชนียวัตถุ อันทรงคุณค่า ซึ่งล้วนเป็นที่เคารพบูชาอย่างสูงสุดของพุทธศาสนิกชนที่หลั่งไหลมาสักการะไม่ขาดสาย โดยสามารถกล่าวถึงสิ่งสำคัญได้ดังนี้:
- พระสัพพัญญู – พระประธานประจำอุโบสถ ปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 70 นิ้ว สร้างขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช 2495
- พระพุทธชินินทร – พระพุทธรูปศิลปะอู่ทอง หน้าตักกว้าง 32 นิ้ว ประดิษฐานภายในอุโบสถ
- หลวงพ่อพระพุทธอภิบาลปวงชน – หน้าตักกว้าง 32 นิ้ว สร้างเมื่อ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2525 และได้รับพระราชทานนามโดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เมื่อ 12 ธันวาคม ปีเดียวกัน
- พระพุทธมนต์ปรีชา สุโขทัย – พระประธานเดิมประจำหอประชุม ปัจจุบันประดิษฐานภายในพระอุโบสถ
- พระบรมสารีริกธาตุ พระธาตุอินแขวนจำลอง – สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่จำลองจากพระธาตุอินแขวนของพม่า
- พระพุทธชินราชจำลอง – ประดิษฐานภายในวิหารลิมปาภรณ์ สะท้อนถึงศิลปะไทยที่งดงาม
- พระเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ – องค์เจดีย์ศักดิ์สิทธิ์ที่ย้ายมาจากวัดหน้าพระธาตุ เป็นศูนย์รวมแห่งศรัทธาของพุทธศาสนิกชน
วิธีเดินทางไปวัดธาตุทอง
วัดธาตุทอง ตั้งอยู่ริมถนนสุขุมวิท แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า BTS เอกมัย และสถานีขนส่งสายตะวันออก (เอกมัย)
เดินทางด้วย รถไฟฟ้า BTS (แนะนำที่สุด)
- ขึ้น BTS สายสุขุมวิท มาลงที่สถานี เอกมัย (Ekkamai)
- ใช้ ทางออกที่ 3 เดินตรงมาทางสุขุมวิท 63 (เอกมัย)
- วัดจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับห้าง Gateway Ekamai เดินเท้าประมาณ 3-5 นาที ก็จะถึงวัดธาตุทอง
✅ เหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่ต้องการความสะดวก ไม่ต้องเดินไกลเกินไป
✅ บริเวณวัดมีทางลาด ทางเดินเรียบ และพื้นที่ร่มรื่น เหมาะแก่การพักผ่อนใจ
เดินทางด้วย รถแท็กซี่หรือรถส่วนตัว
- ปักหมุด GPS ว่า “วัดธาตุทอง พระอารามหลวง”
- เส้นทางที่สะดวกที่สุดคือผ่าน ถนนสุขุมวิท หรือ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่
- หากเดินทางช่วงวันธรรมดา ควรเผื่อเวลาเล็กน้อยเนื่องจากการจราจรบริเวณเอกมัยมักหนาแน่นในช่วงเร่งด่วน
✅ หากนั่งแท็กซี่ แจ้งคนขับว่า “ไปวัดธาตุทอง ตรงข้ามเกตเวย์ เอกมัย ใกล้ BTS เอกมัย”
พวงหรีดวัดธาตุทอง – สื่อแทนใจ แห่งความอาลัยอย่างสมเกียรติ
วัดธาตุทอง พระอารามหลวง เป็นหนึ่งในวัดสำคัญกลางกรุงเทพฯ ตั้งอยู่ติดสถานี BTS เอกมัย เป็นศูนย์รวมของพิธีกรรมทางศาสนา และเป็นสถานที่จัดงานบำเพ็ญกุศลศพที่มีความพร้อมทั้งด้านสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวก ด้วยความเป็นวัดขนาดใหญ่ มีศาลาสวดจำนวนมาก จึงมีการจัดงานสวดอภิธรรมเป็นประจำทุกวัน
การเลือก พวงหรีดวัดธาตุทอง จึงถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเป็นตัวแทนของความอาลัย ความเคารพ และการไว้อาลัยอย่างสมเกียรติแด่ผู้ล่วงลับ ร้านพวงหรีดในย่านวัดธาตุทองมีประสบการณ์ในการจัดส่งพวงหรีดหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น พวงหรีดดอกไม้สด, พวงหรีดพัดลม, พวงหรีดต้นไม้, หรือ พวงหรีดของใช้บริจาค ที่งดงามและมีคุณค่า
ด้วยทำเลของวัดที่รถติดเป็นประจำ โดยเฉพาะช่วงเย็น การสั่งพวงหรีดออนไลน์จึงเป็นทางเลือกที่สะดวกที่สุด ท่านสามารถเลือกแบบพวงหรีด ชำระเงิน และแจ้งชื่อผู้เสียชีวิต-ศาลา ได้ง่ายดายผ่านเว็บไซต์หรือไลน์ของร้าน
บุญพา พวงหรีด ยินดีให้บริการจัดส่งพวงหรีดถึงวัดธาตุทองอย่างตรงเวลา พร้อมแนบป้ายชื่อผู้แสดงความอาลัยอย่างสวยงามและสุภาพ ด้วยหัวใจที่เข้าใจในช่วงเวลาแห่งการสูญเสีย
สรุป
วัดธาตุทอง คืออารามหลวงที่รวมศรัทธาและประวัติศาสตร์ไว้ในสถานที่เดียวอย่างงดงาม เป็นวัดที่ไม่เพียงแค่มีความเก่าแก่ หากยังร่วมสมัย และใกล้ชิดผู้คนทุกยุคทุกวัย
หากท่านมีโอกาสผ่านมาย่านสุขุมวิท อยากแนะนำให้แวะเข้ามากราบพระ ทำบุญ หรือเพียงแค่นั่งสงบใจในลานวัดแห่งนี้ เชื่อแน่ว่าท่านจะรู้สึกถึงพลังใจที่เปี่ยมด้วยเมตตา ความอบอุ่น และความเป็นไทยอย่างแท้จริงครับ
