วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน วัดใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ จุดหมายของผู้สูงวัยผู้ศรัทธาในพุทธธรรมและประชาธิปไตย สำหรับผู้ที่รักการเดินทางอย่างเรียบง่าย อยากพักใจในสถานที่เงียบสงบ และมีความหมายลึกซึ้งในเชิงพุทธศาสนาและประวัติศาสตร์ชาติไทย — “วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร” ย่านบางเขน คือสถานที่ที่ควรไปเยือนอย่างยิ่ง
วัดแห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงวัดธรรมดาทั่วไป หากแต่เป็นวัดพระอารามหลวงชั้นเอก ที่สร้างขึ้นด้วยแรงศรัทธาและอุดมการณ์เพื่อประชาชน โดยมี พระบรมสารีริกธาตุ จากประเทศอินเดียเป็นศูนย์รวมจิตใจ และยังเป็นหนึ่งใน สัญลักษณ์สำคัญของประชาธิปไตยไทย ที่ไม่ควรมองข้าม

ขอบคุณภาพจาก Facebook: วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร
ประวัติความเป็นมาของวัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร: วัดแห่งประชาธิปไตย และศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชน
วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร ได้รับอนุญาตให้จัดตั้งเป็นสำนักสงฆ์เมื่อวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2484 และในเวลาต่อมาได้รับการยกฐานะเป็น พระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2485
การก่อสร้างวัดแห่งนี้เริ่มต้นในสมัย จอมพล ป. พิบูลสงคราม ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยท่านมีแนวคิดที่จะสร้างวัดขึ้นใกล้กับ อนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ เพื่อให้เป็น สัญลักษณ์แห่งการปกครองในระบอบประชาธิปไตย และเพื่อให้ทันต่อการเฉลิมฉลองวันชาติในวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2484 คณะรัฐมนตรีจึงมีมติเห็นชอบและอนุมัติให้ดำเนินการก่อสร้างวัด พร้อมตั้งชื่อเบื้องต้นว่า “วัดประชาธิปไตย”
ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง พลเรือตรีถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ (ในขณะนั้นมียศเป็นนาวาเอก) ได้เดินทางไปยังประเทศอินเดียเพื่อนำกลับมายังประเทศไทยทั้ง
- พระบรมสารีริกธาตุ
- กิ่งพระศรีมหาโพธิ์ จำนวน 5 กิ่ง จากต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่เกี่ยวข้องกับการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
- และ ดินศักดิ์สิทธิ์จาก 4 สังเวชนียสถาน ได้แก่ สถานที่ประสูติ ตรัสรู้ แสดงปฐมเทศนา และปรินิพพาน
สิ่งของอันศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ได้ถูกอัญเชิญมาประดิษฐานภายในวัดแห่งนี้ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และต่อมาได้รับพระราชทานนามว่า “วัดพระศรีมหาธาตุ” พร้อมทั้งถวายเป็นเสนาสนะ (ที่พำนักของสงฆ์) อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2485
ถาวรวัตถุสำคัญภายในวัด
วัดพระศรีมหาธาตุฯ มีสิ่งปลูกสร้างที่โดดเด่นและมีความสำคัญทางศาสนาและประวัติศาสตร์ ได้แก่
- พระเจดีย์ศรีมหาธาตุ: เจดีย์องค์ใหญ่ที่ภายในประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และยังมีช่องสำหรับบรรจุอัฐิของบุคคลที่ทำคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติ ซึ่งผ่านการพิจารณาโดยรัฐบาลและสภาผู้แทนราษฎร
- พระศรีสัมพุทธมุนี: พระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะสุโขทัย เป็นพระประธานภายในพระอุโบสถ เดิมเคยประดิษฐานอยู่ ณ วังหน้า ก่อนจะอัญเชิญมาประดิษฐาน ณ วัดแห่งนี้

ขอบคุณภาพจาก Facebook: วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร
พระอุโบสถ
พระอุโบสถของวัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร ถูกออกแบบอย่างวิจิตรงดงามในรูปแบบ จตุรมุข คล้ายพระที่นั่งในราชสำนัก โดยมีวิหารคตล้อมรอบทางทิศเหนือและใต้ เป็นเสมือนกำแพงธรรมล้อมองค์พระอุโบสถไว้อีกชั้นหนึ่ง ส่วนด้านหลังพระอุโบสถนั้นเป็นที่ตั้งของศาลาการเปรียญ
บริเวณด้านหน้าของพระอุโบสถ เป็นที่ประดิษฐานของ พระมหาเจดีย์ศรีมหาธาตุ ซึ่งมีความสูง 38 เมตร ถือเป็นสิ่งก่อสร้างสำคัญที่เปี่ยมด้วยความศักดิ์สิทธิ์และมีความหมายยิ่ง ทางราชการได้จัดให้มี พระราชพิธียกฉัตรยอดเจดีย์ ขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2484
องค์พระมหาเจดีย์ถูกออกแบบให้มี สองชั้น โดยชั้นนอกเป็นเจดีย์องค์ใหญ่ที่ห่อหุ้มเจดีย์องค์เล็กซึ่งตั้งอยู่ภายในตรงกลาง เพื่อประดิษฐาน พระบรมสารีริกธาตุ อย่างสง่างาม บริเวณระหว่างองค์ใหญ่และองค์เล็กนั้น กว้างประมาณ 2.5 เมตร เป็นทางเดินรอบภายในสำหรับประชาชนที่ต้องการเข้าไปนมัสการ โดยมีประตูเปิดเข้าออกทั้ง 4 ทิศ
ภายในผนังของเจดีย์องค์ใหญ่ ยังได้ออกแบบให้มีช่องสี่เหลี่ยมจำนวน 112 ช่อง ซึ่งรัฐบาลและสภาผู้แทนราษฎรในขณะนั้น ได้มีมติเมื่อวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2484 ให้ใช้เป็นที่บรรจุ อัฐิของบุคคลผู้ทำคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากการจัดสร้างคล้ายคลึงกับสุสานแห่งเกียรติยศในประเทศฝรั่งเศส
นอกจากนี้ บริเวณด้านหน้าของพระเจดีย์ทั้งสองด้านทางทิศตะวันออก ยังมี เกาะทรงกลมล้อมรอบด้วยสระน้ำ ถูกจัดเตรียมไว้เพื่อเป็นสถานที่ประดิษฐาน กิ่งพระศรีมหาโพธิ์ อันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งรัฐบาลอินเดียได้มอบให้ประเทศไทยจำนวน 5 กิ่ง เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการตรัสรู้แห่งพระพุทธเจ้า โดย จอมพล ป. พิบูลสงคราม ในฐานะนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้เป็นประธานในพิธีปลูกกิ่งพระศรีมหาโพธิ์ ณ เกาะกลมทั้ง 2 เกาะ เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2484
ส่วนกิ่งพระศรีมหาโพธิ์ที่เหลือจากจำนวนนั้น ได้ถูกอัญเชิญไปปลูกยังวัดสำคัญต่าง ๆ ทั่วภูมิภาคของประเทศ เพื่อให้ประชาชนในแต่ละภาคมีโอกาสได้สักการะและรับความเป็นสิริมงคลโดยทั่วถึง
การเดินทางไปยังวัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน:
- โดยรถยนต์ส่วนตัว:
- จาก ถนนรามอินทรา หรือ ถนนพหลโยธิน ขับตรงเข้าสู่ ถนนวิภาวดีรังสิต หรือถนน ลาดพร้าว แล้วเลี้ยวเข้าสู่ ถนนแจ้งวัฒนะ หรือถนน ประดิษฐ์มนูธรรม มุ่งไปยังแยกบางเขน สังเกตป้ายบอกทางไปยังวัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับสถานที่สำคัญในเขตบางเขน
- แผนที่: https://maps.app.goo.gl/BBZs48dp2vbdcSNc6
- โดยรถไฟฟ้า (BTS):
- สามารถเดินทางโดย BTS สถานีหมอชิต แล้วใช้บริการรถแท็กซี่ หรือจะต่อ รถประจำทาง หรือ มอเตอร์ไซค์รับจ้าง ไปยังวัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร
- อีกทางเลือกหนึ่งคือการใช้ BTS สถานีสายหยุด แล้วเดินไปยังทางออกที่ใกล้กับวัด
- สามารถเดินทางโดย BTS สถานีหมอชิต แล้วใช้บริการรถแท็กซี่ หรือจะต่อ รถประจำทาง หรือ มอเตอร์ไซค์รับจ้าง ไปยังวัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร
- โดยรถประจำทาง:
- รถประจำทางที่สามารถไปถึงวัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน ได้แก่ สาย 34, 39, 543 ซึ่งจะผ่านเส้นทางที่ใกล้เคียงกับบริเวณวัด
- ลงที่ป้ายใกล้กับวัดแล้วเดินเข้าไปไม่ไกล
- รถประจำทางที่สามารถไปถึงวัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน ได้แก่ สาย 34, 39, 543 ซึ่งจะผ่านเส้นทางที่ใกล้เคียงกับบริเวณวัด
- โดยรถแท็กซี่:
- หากใช้บริการรถแท็กซี่จากจุดใดๆในกรุงเทพฯ เพียงแจ้งให้คนขับไปที่ วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน ซึ่งอยู่ในเขตบางเขน และคนขับสามารถพาคุณไปยังวัดได้โดยตรง

ขอบคุณภาพจาก Facebook: วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร
บุญพาพวงหรีด – พวงหรีดวัดพระศรีมหาธาตุวรวิหาร
ตัวแทนส่งความอาลัย ด้วยหัวใจที่เปี่ยมด้วยศรัทธาและความเคารพ
เมื่องานพิธีศพคือช่วงเวลาแห่งความอาลัยและการส่งดวงวิญญาณผู้ล่วงลับให้ไปสู่สุคติ “บุญพาพวงหรีด” ขอน้อมรับหน้าที่เป็นสะพานบุญในการส่งมอบ พวงหรีดคุณภาพดี มีความหมาย และเปี่ยมด้วยความเคารพ ไปยัง วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เขตบางเขน วัดพระอารามหลวงสำคัญใจกลางกรุงเทพฯ